Aloe Vera Extract : สารสกัดว่านหางจระเข้ (น้ำ) (T018AV)
Aloe Vera Extract : สารสกัดว่านหางจระเข้ (น้ำ) (T018AV)
รายละเอียด

Aloe Vera Extract คือ สารสกัดจากว่านหางจระเข้ สมุนไพรขึ้นชื่อที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ประโยชน์สรรพคุณนานัปการ มีวิตามินพร้อมด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผิวพรรณในด้านของความสวยความงาม เมื่อใช้ว่านหางจระเข้ในการบำรุงอย่างเป็นประจำ จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในด้านบวก ทั้งช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ผิวพรรณผุดผ่อง บรรเทาอาการแสบร้อนหรือระคายเคืองจากการไหม้เกรียมโดยแสงแดด ให้ผิวเนียนเรียบ ทำให้ผิวพรรณเต่งตึง คงความสวยกระจ่างใส ในเนื้อของว่านหางจระเข้ประกอบด้วย วิตามิน เอ บี1 บี2 บี6 ซี และ อี กรดอะมิโนอีกมากถึง 18 ชนิดกรดอะมิโน และสารอาหารผิวอื่นๆ อีกมากมายว่านหางจระเข้ เป็นพืชที่มีน้ำมากชนิดหนึ่งจัดอยู่ในสายพันธุ์ Aloe พืชชนิดนี้มักจะเจริญเติบโตในพื้นที่เขตร้อนที่มีอยู่รอบโลกและพวกมักถูกใช้เพื่อเกษตรกรรมและรวมไปถึงทางการแพทย์ นอกจากนี้ ว่านหางจระเข้ยังใช้เป็นไม้ประดับได้ด้วย สามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีแม้ปลูกลงกระถางและอยู่ในที่ร่ม ว่านหางจระเข้อาจเรียกได้ว่าเป็นพืชที่เกือบไร้ลำต้นเพราะมีความยาวของส่วนลำต้นชุ่มน้ำที่สั้นมากราว 60-100 ซม. ในลักษณะที่แตกหน่อออกไปทุกทิศทาง ส่วนของใบนั้นจะหนาและมีเนื้อมาก มีสีเขียวถึงเขียวเข้ม มีจุดด่างสีขาวเล็ก ๆ ทั้งบริเวณด้านล่างและด้านบนของผิวลำต้นเจลลักษณะคล้ายวุ้นที่อยู่ในว่านหางจระเข้นั้นถือเป็นส่วนที่สำคัญมาก ภายในเจลจะอุดมไปด้วยสาร polysaccharide และ glucomanine ซึ่งสารสองตัวนี้คือสารสำคัญที่จะช่วยในเรื่องของการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวและช่วยปกป้องผิวจากรังสีอุลตร้าไวโอเล็ต (UV) อีกทั้งยังช่วยให้ผิวดูเนียนนุ่มน่าสัมผัสอีกด้วย ผลิตภัณฑ์ที่ใช้สารสกัดจากว่านหางจระเข้นั้นส่วนใหญ่จะเป็นยาสระผมและสบู่เหลว ด้วยการรวมตัวกันของสาร polysaccharide และ barbaloin ผลลัพธ์ที่ได้คือสามารถช่วยปกป้องเส้นผมและหนังศีรษะของคุณจากความแห้งที่เกิดจากแสงแดดได้ ยิ่งไปกว่านั้น พืชชนิดนี้ยังมีประโยชน์อีกมากมายหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ ช่วยให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดหัวใจทำงานดีขึ้น ช่วยบรรเทาอาการปวดบริเวณข้อต่อและกล้ามเนื้อ ช่วยให้อายุยืนยาวขึ้น พร้อมทั้งช่วยรักษาอาการของโรคเหงือกได้ โดยพืชชนิดนี้มีการระบุมาแล้วว่าถูกใช้เป็นยาบรรเทาอาการปวดมานานหลายช่วงอายุคนแล้ว เพราะมีสรรพคุณในการต้านการอักเสบที่เป็นเลิศมีสรรพคุณในการรักษาผื่นคัน สิว ผิวหนังพอง ถูกแดดเผา ผิวด่างดำ ลดการอักเสบของผิว ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่น กระชับรูขุมขน มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค และเชื้อรา และมีฤทธิ์ช่วยสมานแผล แม้แต่พระนางคลีโอพัตราก็รักษาความงามและความมีเสน่ห์ของพระองค์ด้วยวุ้นของว่านหางจระเข้ประโยชน์ของว่านหางจระเข้- น้ําว่านหางจระเข้ สามารถช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยชะลอความแก่ชรา และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้อีกด้วย- ว่านหางจระเข้อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ รวมไปถึงกรดอะมิโนอีกหลายชนิดที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ธาตุแมกนีเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุทองแดง ธาตุแมงกานีส ธาตุซีลีเนียม ธาตุโครเมียม วิตามินเอ วิตามินซี วิตามิอี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 วิตามินบี 9 โคลีน และยังเป็นพืชเพียงไม่กี่ชนิดที่มีวิตามินบี 12 ด้วย- ช่วยในการย่อยอาหาร ทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ ช่วยในการดีท็อกซ์ล้างสารพิษในร่างกาย ช่วยในการทำงานของระบบกระเพาะอาหาร และช่วยลดปริมาณของเชื้อแบคทีเรียในลำไส้- จากวารสารแพทย์อังกฤษตีพิมพ์ในปี 2000 (British medical journal) ระบุว่าสารสกัดจากว่านหางจระเข้สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยควบคุมความดันโลหิตและเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และอาจจะมีความเป็นไปได้ว่ามันสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย- ช่วยป้องกันและแก้อาการเมารถเมาเรือ ด้วยการรับประทานเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้หรือน้ําว่านหางจระเข้เย็น ๆ ก็จะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้- การใช้วุ้นว่านหางจระเข้ทาเป็นประจำวันละ 2-4 ครั้ง จะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง- ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่ม ดูชุ่มชื้น แก้ปัญหาผิวแห้งกร้านตามหัวเข่า, ข้อศอก หรือส้นเท้าได้ เพียงแค่ใช้วุ้นจากใบว่านหางจระเข้แช่ในอ่างอาบน้ำ ในระหว่างอาบให้ใช้เนื้อวุ้นถูตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายที่ต้องการ หากทำเป็นประจำก็จะช่วยทำให้ผิวพรรณของคุณเนียนนุ่มชื่นชื้นและเต่งตึงได้- ช่วยเติมน้ำให้ผิว ทำให้ผิวหน้าและผิวกายชุ่มชื้น และป้องกันการเกิดริ้วรอยแห่งวัย เพียงแค่ใช้วุ้นจากใบว่านหางจระเข้นำมาพอกให้ทั่วบริเวณใบหน้าหรือบริเวณผิวที่ต้องการ ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก จะช่วยทำให้ผิวพรรณชุ่มชื้นสดใสและดูเต่งตึงขึ้น- ว่านหางจระเข้รักษาสิว ยับยั้งการติดเชื้อที่เป็นสาเหตุของสิว ช่วยลดรอยดำจากสิว และช่วยลดความมันบนใบหน้า เพราะในใบว่างหางจระเข้จะมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ (ไม่แนะให้ใช้กับสิวอักเสบ เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย)- ช่วยรักษาจุดด่างดำตามผิวหนัง อันเนื่องมาจากแสงแดดหรือจากอายุที่มากขึ้น ด้วยการใช้วุ้นจากใบสดนำทาที่ผิววันละ 2 ครั้งหลังอาบน้ำ และต้องทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจึงจะเห็นผล- ช่วยป้องกันการเกิดฝ้า หากใช้ว่านหางจระเข้เป็นประจำก็จะช่วยป้องกันการเกิดฝ้าได้เป็นอย่างดี (ไม่ใช่การรักษาแต่เป็นการป้องกัน)- วุ้นจากใบสดใช้ชโลมบนเส้นผม จะช่วยทำให้เส้นผมสลวย ผมดกเป็นเงางาม ช่วยป้องกันและขจัดรังแค ช่วยบำรุงต่อมที่รากผมให้มีสุขภาพดี และยังช่วยรักษาแผลบนหนังศีรษะได้อีกด้วย- ในฟิลิปปินส์ ใช้วุ้นจากว่านหางจระเข้ร่วมกับเนื้อในของเมล็ดสะบ้า ในการรักษาผมร่วงหรือหนังศีรษะล้านปัจจุบันได้มีการทดลองใช้วุ้นจากใบเพื่อรักษาคนไข้ที่เป็นแผลกดทับ (Bedsore)- ช่วยลบท้องลายหลังคลอด ด้วยการใช้วุ้นของว่านหางจระเข้มาทาบริเวณท้องเป็นประจำทั้งในขณะตั้งครรภ์และหลังคลอด- ช่วยแก้เส้นเลือดดำขอดบริเวณขา ด้วยการใช้วุ้นว่านหางจระเข้มาทาบริเวณที่เป็นเส้นเลือดขอดเป็นประจำ- สาร Aloctin A พบว่ามันสามารถช่วยรักษาโรคต่าง ๆ ได้หลายโรค เช่น โรคมะเร็ง ช่วยแก้อาการแพ้ รักษาโรคผิวหนัง เป็นต้น- ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ หลายรูปแบบ ที่ผลิตมาจากว่านหางจระเข้ เช่น เครื่องสำอาง โลชัน สบู่ แชมพู ครีมบำรุงผิว ครีมทาใต้ตา ครีมรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ครีมทาแผลสดแผลพุพอง เจลว่านหางจระเข้ เจลทรีตเมนต์บำรุงผิวหน้า ฯลฯ- นอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังสามารถนำมาทำเป็นอาหารจำพวกของหวานได้อีกด้วย เช่น น้ำวุ้นลอยแก้ว วุ้นแช่อิ่ม นำมาปั่นทำเป็นน้ำว่านหางจระเข้ เป็นต้นINCI Name : Aloe Barbadensis Leaf JuiceCAS Number : 85507-69-3คุณลักษณะ : ของเหลว (Liquid)ปริมาณการใช้ : 2 - 10%

ความคิดเห็น
โพสต์ความคิดเห็นของคุณ
แสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ
โพสต์ความคิดเห็นของคุณ
ส่ง