ชมรอบตัว Redmi Note 13 Pro+ 5G XFF 2024 Edition พิเศษรอบตัว สีสวยกว่าใคร

Xiaomi เพิ่งจัดงาน Xiaomi Fan Festival 2024 นอกจากจะมีโปรโมชั่นมากมายแล้วยังมีการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่อย่าง Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition เช่นเดียวกันโดยขายในราคาเดิม คือ 15,990 บาท วันนี้ Sanook Hitech พาคุณมาดูรอบตัวเครื่องและ รายละเอียดกันว่า มันต่างกันแค่ไหนรายละเอียดสเปก Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Editionขนาดตัวเครื่อง 161.4 x 74.2 x 8.9 มิลลิเมตรน้ำหนัก 204.5 กรัมหน้าจอขนาด 6.67 นิ้ว ใช้หน้าจอ CrystalRes AMOLED displayความละเอียดหน้าจอ : 1220 x 2712, Refresh Rate 1- 120Hz ความสว่าง 1,800 nits + Dolby Visionกระจกหน้าจอ : Corning® Gorilla® Victusมาตรฐานการกันน้ำ IP68ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 7200 | GPU : Mali G610 MC4RAM: 8GB / 12GB แบบ LPDDR5ความจำในตัว :256GB / 512GB แบบ UFS 3.1ไม่สามารถเพิ่มความจำได้ระบบปฏิบัติการ : Android 13 + MIUI 14การเชื่อมต่อ 5G/4G WiFi 6 (AX), GPS, Bluetooth 5.2 A-GPS, GPS, NFCช่องเสียบ USB-Cรองรับ Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่องระบบเสียง : ด้านบนและล่าง รองรับ Dolby ATMOSระบบไมโครโฟน : 2 ด้านบนและล่างกล้องมีหลังประกอบด้วย 3 ตัวด้วยกันประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล F/1.65 PDAF + 16 – 1 Super Pixelกล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 119 องศากล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซลรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30 FPS, FHD 60/30 FPS, Slowmotion , Timelapseกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล FHD 30 FPSแบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 120Wระบบความปลอดภัย : สแกนใบหน้า และสแกนนิ้วในหน้าจอสี : Mystic Silverทั้งนี้รายละเอียดของตัวเครื่องและภาพรวมต่างๆ สามารถกดอ่านรีวิวรุ่นปกติตัวเต็มได้ที่นี่ครับเปิดกล่อง Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Editionภายในกล่องของ Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition ประกอบไปด้วยตัวเครื่อง Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Editionคู่มือ, เข็มจิ้มถาดใส่ซิมสายชาร์จไฟ USB-C to USB-AAdapter กำลัง 120Wสติ๊กเกอร์ลายพิเศษของ Xiaomi Fan Festival 2024เคสตัวเครื่องรูปลักษณ์หน้าตาของ Redmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Editionพื้นฐานยังคงเป็น Redmi Note 13 Pro+ 5G ปกติ นั่นคือหน้าจอโค้ง ขนาด 6.67 นิ้ว Refresh Rate 120Hz โดยตัวเครื่องจะมีหน้าจอกระจกแบบ Gorilla Glass Victus แข็งแรงกว่าเดิม หน้าจอแบบนี้ก็ตอบสนองการเล่นเกมที่ดีเพราะความลื่นไหลของหน้าจอนั้นถือว่าโดดเด่นมากและยังให้สีสันตรงทั้ง DCI-P3 = 10)% รองรับ Dolby ATMOS และ Reading Mode แถมลดแสงสีฟ้าตามมาตรฐานของ TUV Rheinland มาให้ด้วยด้านบนจะมีกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และ ด้านล่างมีปุ่มควบคุมของเครื่องที่เรียกว่าใช้งานง่ายมากขึ้นด้วยกันรอบตัวเครื่องเป็นแบบเรียบง่ายแต่ขอบจะโค้งลงมาทั้งด้านบนและล่างด้วยกัน ฝั่งซ้ายไม่มีอะไร, ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่ม Power และ ปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงด้านบนมาพร้อมกับ IR Blaster, ลำโพง, ไมโครโฟนคู่ด้วยกัน ส่วนด้านล่างมีช่องใส่ซิม, USB-C ไมโครโฟน และลำโพงขนาดใหญ่พลิกมาด้านหลังพบกับด้านหลังเป็นวัสดุของสี Mystic Silver พร้อมกับสัญลักษณ์ของ Xiaomi Fan Festival และนอกจากนี้ยังมีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวด้วยกัน แต่ถ้าใครอยากเก็บเครื่องสวยๆ แบบนี้ แนะนำใส่เคสครับ และนอกจากนี้ตัวเครื่องกันน้ำ IP68 ด้วยนะ สิ่งที่แตกต่างจากเวอร์ชั่นปกตินอกจากสีสัน Mystic Silver พร้อมกับสัญลักษณ์ของ Xiaomi Fan Festival ที่จับแล้วเป็นแบบผิว Matte แล้วยังมาพร้อมกับการออกแบบให้ตัวเครื่องจับได้ดีกว่ารุ่นปกตินิดหน่อย และยังมีการเปลี่ยน Wallpaper ข้างในที่เป็นลายเฉพาะของรุ่น Xiaomi Fan Festival เช่นเดียวกันครับผลงานภาพจาก Redmi Note 13 Pro+ 5Gกล้องหลัง1x2x (Optical Zoom)4X (In-Sensor Zoom)กล้องหน้าราคาเปิดตัวของ Redmi Note 13 Pro+ 5GRedmi Note 13 Pro+ 5G Xiaomi Fan Festival Special Edition เวอร์ชั่นพิเศษได้สีเงิน Mystic Silver ที่มีราคา 15,990 บาท โดยพร้อมให้คุณเป็นเจ้าของ แล้ววันนี้ แน่นอนว่าไม่ต้องถามว่าเหมาะกับใคร นั่นคือสาวก Xiaomi ล่ะ 1 และอีกคนคือไม่อยากได้ความซ่ำกับ Redmi Note 13 Pro+ 5G ที่มี 2 สีให้เลือกก่อนหน้านี้ เรียกว่าพิเศษสุด เพราะก่อนหน้านี้มีสีนี้ในรุ่นธรรมดา แต่ประเทศไทยไม่ขาย เพราะอาจจะรอเวอร์ชั่นนี้ก็ได้ที่สำคัญคือ เวอรชั่นนี้มีจำนวนจำกัดใครอยากได้คงต้องรีบหน่อยนะครับ
มือถือและอุปกรณ์เสริม
05/10